ติดต่อเรา

Email:icothai@gmail.com

Tel0819511100

           ^ กดเบอร์โทรข้างบนเพื่อติดต่อได้เลยคะ 

Line : 0819511100

Office Hours

  • Monday - Friday 
  • 8.30 A.M. to 5.00 P.M.
  • Saturday - Sunday Closed
 ติดต่อสอบถาม

ชื่อ :
นามสกุล :
บัตรประชาชนเลขที่ :
ที่อยู่ :
อำเภอ :
จังหวัด :
รหัสไปรษณีย์ :
มือถือ :
อีเมล์ :
Line ID :
Facebook ID / Name :
เรื่องที่สอบถาม :
 
 

 
 
 
 
 
LINE ID : 0819511100




คดีฟ้องขับไล่จำเลย/ลูกหนี้ พร้อมบริวาร ออกจากที่ดิน/
บ้าน กรณีซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด สำนักงานบังคับคดี


 

ปัญหา ในกรณีผู้ซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดหรือการประมูลสู้ราคาของสำนักงานบังคับคดี แต่บ้านยังมีลูกหนี้หรือจำเลยและบริวารอาศัยอยู่ ผู้ซื้อจึงจำเป็นต้องยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อบังคับให้ลูกหนี้หรือจำเลยและบริวารออกไปจากสถานที่ดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2548 เป็นต้นมา ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2548 ได้เริ่มบังคับใช้ ซึ่งเป็นวิธีง่าย โดยผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องไปยื่นคำฟ้องขับไล่เป็นคดีใหม่ 

 

ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฏีกา ที่น่าสนใจ 

คำพิพากษาฎีกาที่ 5502/2555 

การที่ผู้ซื้อที่ดินและอาคารจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี ขอให้ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยทั้งสาม ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาและบริวารซึ่งยังครอบครองและอาศัยอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวออกไปจากที่ดินและอาคารนั้น ถือว่าเป็นการบังคับคดีต่อเนื่องจากที่โจทก์ได้บังคับคดีไว้ก่อนแล้วซึ่ง ป.วิ.พ. มาตรา 309 ตรี บัญญัติให้ถือว่า ผู้ซื้อทรัพย์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา และลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารที่อาศัยอยู่ในอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา อันมีผลเท่ากับให้ผู้ซื้อทรัพย์สวมสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ได้ร้องขอให้บังคับคดีแก่จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาและผู้ซื้อทรัพย์ดำเนินการบังคับคดีต่อเนื่องจากโจทก์ดังกล่าว จึงไม่ต้องยื่นคำขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 271 บัญญัติไว้อีก ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า ผู้ซื้อทรัพย์มีสิทธิยื่นคำขอต่อศาลให้ออกคำบังคับให้จำเลยที่ 3 และบริวารออกไปจากอสังหาริมทรัพย์พิพาทโดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่ 

  

คำพิพากษาฎีกาที่ 3712/2555 

แม้ตามคำฟ้องของโจทก์ โจทก์สามารถดำเนินการบังคับขับไล่จำเลยให้ออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่โจทก์ซื้อมาจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้ โดยการยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 309 ตรี แต่บทบัญญัติมาตรา 309 ตรี มิได้บัญญัติห้ามหรือตัดสิทธิของโจทก์ในการที่จะใช้สิทธิทางศาลโดยการฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่อยู่ในทรัพย์สินที่โจทก์ซื้อมาจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยละเมิด ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ออกคำบังคับตามมาตรา 309 ตรี และให้จำหน่ายคดีโจทก์เสียจากสารบบความจึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

  

ประเด็น หากผู้ซื้อต้องการเรียกค่าเสียหาย ต้องนำไปฟ้องเป็นคดีใหม่ ข้อหาขับไล่ 

คำพิพากษาฎีกาที่ 5997/2555 

ป.วิ.พ. มาตรา 309 ตรี ให้สิทธิผู้ซื้อทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเพียงการขอให้ออกคำบังคับและให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีเพื่อขับไล่จำเลยในฐานะลูกหนี้ตามคำพิพากษาและบริวารออกไปจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทเท่านั้น เมื่อโจทก์ประสงค์จะเรียกค่าเสียหายจากจำเลยในมูลละเมิด เพราะจำเลยไม่ยอมออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทก็ชอบที่โจทก์จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายเป็นคดีใหม่ต่างหาก ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่าโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายในมูลละเมิดเป็นคดีนี้ได้ จำเลยรับว่าเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีเดิมโดยธนาคาร ก. เป็นผู้ซื้อทรัพย์พิพาทจากการขายทอดตลาดในคดีดังกล่าวและโจทก์เป็นผู้ซื้อทรัพย์ต่อมาจากธนาคาร ก. ทั้งจำเลยก็ยังอยู่ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทที่โจทก์ซื้อมา จึงย่อมฟังได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์แล้ว 

  

ประเด็น ชำระเงินมัดไว้บางส่วน แม้จำเลยจะได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2537 

โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจากการขายทอดตลาดของศาลชั้นต้นโดยสุจริตและวางเงินมัดจำไว้บางส่วน แต่ก่อนที่จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ ดังนี้ แม้โจทก์จะยังมิได้ชำระราคาที่ดินพิพาทครบถ้วนหรือยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยผู้อยู่อาศัยในที่ดินพิพาทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330  

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่เกี่ยวข้อง 

มาตรา 309 ตรี เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีโอนอสังหาริมทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อ หากทรัพย์สินที่โอนนั้นมีลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารอยู่อาศัย และลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารไม่ยอมออกไปจากอสังหาริมทรัพย์นั้น ผู้ซื้อชอบที่จะยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลที่อสังหาริมทรัพย์นั้น ตั้งอยู่ในเขตศาลให้ออกคำบังคับให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบริวารออกไปจากอสังหาริมทรัพย์นั้น ภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนด แต่ไม่น้อยกว่า 30 วัน ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ให้บังคับตาม มาตรา 296ทวิ มาตรา 296ตรี มาตรา 296จัตวา มาตรา 296ฉ มาตรา 296สัตต มาตรา 299 มาตรา 300 มาตรา 301 และ มาตรา 302 โดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้เจ้าพนักงานศาลเป็นผู้ส่งคำบังคับ โดยผู้ซื้อมีหน้าที่จัดการนำส่ง และให้ถือว่าผู้ซื้อเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารที่อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามบทบัญญัติดังกล่าว 

  

พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2560 

หมวด 7 การบังคับคดีในกรณีที่ขอให้ศาลสั่งจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษา 

มาตรา 361 ภายใต้บังคับบทบัญญัติหมวด 4 การบังคับคดีในกรณีที่ให้ขับไล่ ในกรณีที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาจงใจขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ และไม่มีวิธีการบังคับอื่นใดที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะใช้บังคับได้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจมีคำขอฝ่ายเดียว ให้ศาลมีคำสั่งจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาก็ได้ 

เมื่อได้รับคำขอตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลพิจารณาคำขอโดยเร็ว หากเป็นที่พอใจจากพยานหลักฐานซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำมาสืบหรือที่ศาลเรียกมาสืบว่า ลูกหนี้ตามคำพิพากษาสามารถที่จะปฏิบัติตามคำบังคับได้ถ้าได้กระทำการโดยสุจริต และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไม่มีวิธีการบังคับอื่นใดที่จะใช้บังคับได้ให้ศาลออกหมายจับลูกหนี้ตามคำพิพากษา 

ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษามาศาลหรือถูกจับตัวมา แต่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่อาจแสดงเหตุอันสมควรในการที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับได้ ศาลมีอำนาจสั่งกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาทันทีหรือในวันหนึ่งวันใดที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษายังคงขัดขืนอยู่ก็ได้ หากลูกหนี้ตามคำพิพากษาแสดงเหตุอันสมควรในการที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับได้ หรือตกลงที่จะปฏิบัติตามคำบังคับทุกประการ ศาลจะมีคำสั่งให้ยกคำขอ หรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นตามที่เห็นสมควรก็ได้ 

  

หลักกฎหมายคุ้มครองคนสุจริตที่ประมูลซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยเปิดเผย 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่เกี่ยวข้อง 

มาตรา 1330 สิทธิของบุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล หรือคำสั่งเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ในคดีล้มละลายนั้น ท่านว่ามิเสียไป ถึงแม้ภายหลังจะพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลย หรือลูกหนี้โดยคำพิพากษา หรือผู้ล้มละลาย 

  

เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง  

1 ใบเสร็จรับเงิน จากสำนักงานบังคับคดี 

2 คำขอ ขายตามคำสั่งศาล 

3 สำเนาโฉนดที่ดิน / หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด 

4 ทะเบียนบ้านของจำเลยและบริวาร 

5 ทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร้อง 

6 หนังสือสำคัญแสดงการเปลีย่นชื่อสกุล (ถ้ามี) 

7 หนังสือบอกกล่าวแจ้งขับไล่ พร้อมใบตอบรับ EMS ในประเทศ 

  

ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่

1 ผู้ร้องมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา สามารถยื่นคำร้องต่อศาลได้เลย โดยทำเป็นคำขอฝ่ายเดียว ไม่ต้องไปยื่นคำฟ้องเป็นคดีใหม่ เมื่อศาลตรวจสอบคำร้องเห็นว่าชอบว่า จะสั่งว่า “ออกคำบังคับ ให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินและออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาทภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันทราบคำบังคับ" 

2 เมื่อจำเลยไม่ยอมออกหลังจากศาลมีคำบังคับ ผู้ร้องต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อขับไล่จำเลยและบริวาร  

3 เมื่อนำเจ้าพนักงานบังคับคดีออกไปปิดประกาศขับไล่แล้ว จำเลยและบริวารไม่ยอมออก ต้องมารายงานต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี และขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรายงานศาล เพื่อออกหมายจับจำเลยและบริวาร โดยผู้ซื้อทรัพย์ต้องไปคัดทะเบียนราษฎร์บุคคลที่จะขอให้เจ้าพนักงานออกหมายจับ (แต่ทั้งนี้ผู้ที่อยู่อาศัยสามารถยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาล ภายใน 8 วัน เพื่อให้ศาลนัดวันไต่สวนคำร้อง) 

4 เมื่อออกหมายจับแล้ว ให้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปจับจำเลยและบริวาร เพื่อนำไปให้ศาลไต่สวน ถ้าจำเลยยังไม่ยอมออก ศาลจะสั่งขัง แต่ส่วนใหญ่ไม่ดื้อ ศาลจะให้โอกาส ออกภายในกำหนด 

5 หากจำเลยและบริวารออกจากบ้านแล้ว ให้มาแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อจะได้ส่งมอบการครอบครองให้ 

6 ผู้ร้องต้องเป็นผู้ได้รับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน โดยดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ต่อเจ้าพนักงานที่ดินให้เรียบร้อยก่อน 

7 ผู้ซื้อจะต้องนำคำขอฝ่ายเดียวนั้น ไปยื่นที่ศาลที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ในเขตศาล เพื่อขอให้ศาลออกคำบังคับให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารออกไปจากอสังหาริมทรัพย์นั้น ภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนด ทั้งนี้โดยไม่ต้องคำนึงว่าอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ซื้อซื้อได้จะเกิดจากศาลใดออกคำบังคับก็ตาม ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 309 ตรี 

8 ลูกหนี้หรือจำเลยจะอ้างเหตุว่าได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์แล้วขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้ อ้างอิงคำพิพากษาศาลฏีกาที่ 4394/2547 

9 กรณีซื้อทรัพย์จากคดีล้มละลาย ต้องยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลาย 

10 กรณีถูกออกหมายจับ ลูกหนี้และบริวาร ต้องเตรียมเงินค่าประกันตัวจำนวน 5,000 บาท 

11 ค่าใช้จ่ายในการนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปขับไล่ 1,500 บาท 

 

Tag: ทนายเชียงใหม่, ทนายเชียงใหม่ช่วยเหลือประชาชน, ทนายประชาชน,  สำนักงานทนายความเชียงใหม่, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่, ทนายความเชียงใหม่, สำนักงานกฎหมายในจังหวัดเชียงใหม่, ทนายเชียงใหม่เก่งๆ, ปรึกษาทนายเชียงใหม่,  ทนายอาสาเชียงใหม่, สภาทนายเชียงใหม่, ทนายความเชียงใหม่มืออาชีพ, ทนายความเชียงใหม่ช่วยเหลือ SME และ START UP, ทนายเชียงใหม่ความมุ่งมั่น, ทนายความเชียงใหม่คลายทุกข์, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ช่วยเหลือประชาชน, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่มุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชน, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่คลายทุกข์


#สำนักงานทนายเชียงใหม่ #สำนักงานกฎหมายในจังหวัดเชียงใหม่ #สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่เก่งๆ #ปรึกษาทนายเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่ #ทนายอาสาเชียงใหม่ #สภาทนายเชียงใหม่ #ทนายความเชียงใหม่

 


Share on Facebook

ปรึกษาฟรี!! มุ่งมั่นช่วยเหลือแก่ทุกท่าน แบบมิตรภาพ โดยทีมทนายความวิถีพุทธ

ดร.เกียรติศักดิ์ เนติบัณฑิตย์ไทย ทนายวิถีพุทธ และทีมทนายความเชียงใหม่ ติดต่อโทร 081-951-1100

 
เว็บสำเร็จรูป
×